เมื่อวันเสาร์ที่แล้ว ก็มีหลายทีมกลุ่มหัวตารางที่ฟอร์มสะดุดกันไป อย่าง อาร์เซน่อล ก็ทำได้เพียงแค่เสมอ และ ไบรท์ตัน ก็เปิดบ้านแพ้ให้กับ เวสต์แฮม จนทีมของ เดวิด มอยส์ กระโดดขึ้นมารั้งจ่าฝูงชั่วคราวได้เลย จนกระทั่ง แมนฯ ซิตี้ จะกลับมาแซงกลับมาได้ในคืนวันอาทิตย์

‘เรือใบสีฟ้า’ ที่ไม่มี เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ก็เกือบพลาดท่าไปแล้วเหมือนกันกับการไปเยือน บรามอล เลน เมื่อโดน เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ยิงตีเสมอได้ในนาทีที่ 85 แต่ด้วยความนิ่งที่ต่างกันทำให้อีกเพียงแค่ 3 นาที โรดรี้ ก็มากระทุ้งประตูชัยคว้า 3 คะแนนไปนอนกอด

สำหรับเกมในคืนวันนี้ จะเป็นอีกเกมที่พวกเขาไม่มีกุนซือหัวใสนั่งคุมทีมอยู่ที่ข้างสนาม จากการที่ยังรักษาตัวอยู่ที่บ้านเกิด และจะเปิดบ้านพบกับ ฟูแล่ม ที่เพิ่งทำช็อกบุกไปเสมอกับ อาร์เซนอล มาได้นั่นเอง

สถิติน่าสนใจของเกมนี้คือ ‘เรือใบ’ เคยแพ้ให้กับ ‘เจ้าสัว’ ที่ เอติฮัด สเตเดี้ยม ครั้งหลังสุดก็เมื่อเดือนเมษายน 2009 และ 12 เกมหลังสุดที่สนามแห่งนี้ แชมป์เก่าก็กวาดชัยชนะไปได้ถึง 10 ครั้ง ซึ่งยังเป็นการชนะรวดใน 9 ครั้งหลังสุดและยิงได้ถึง 27 ประตู เสียไปเพียง 2 ประตูเท่านั้น

นอกจากนี้ ‘เดอะ คอทเทจ’ ยังเป็นทีมที่ทำเสียฟาวล์น้อยที่สุดเป็นอันดับ 2 รองจาก ‘เดอะ บลูส์’ ในฤดูกาลนี้ แต่พวกเขาดันโดนใบแดงถึง 2 ใบจาก 2 เกมล่าสุดที่พบกับ ‘ผึ้งพิฆาต’ และ ‘ปืนใหญ่’

ถึงแม้ว่าเกมนี้ ซิตี้ จะไม่มี เป๊ป อยู่ด้วย แต่ความน่ากลัวของพวกเขาไม่ได้ลดลงไปเลย ซึ่งถ้าหากดูจากเกมที่พบกับ เชฟฯ ยูไนเต็ด พวกเขาแสดงความเยือกเย็นกว่าทีมที่เป็นรองกว่าได้มากพอสมควร

และพวกเขายังคงลุ้นการเอาชนะรวด 4 นัดแรกของฤดูกาลเป็นครั้งที่ 8 บนลีกสูงสุด ซึ่ง 7 ครั้งก่อนหน้า พวกเขาพลาดแชมป์ พรีเมียร์ลีก ไปแค่ครั้งเดียวในฤดูกาล 2011-12 ภายใต้การคุมทีมของ โรแบร์โต้ มันชินี่

ทางด้านทีมของ มาร์โก้ ซิลวา ก็น่าจะต้องปรับจูนทีมกันอีกหน่อยจากนักเตะที่อาจจะย้ายออกไป รวมถึงนักเตะที่โดนแบน และแน่นอนเรื่องของความฟิตที่เป็นรอง เนื่องจากต้องไปเตะ คาราบาวคัพ เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา แต่ก็มีการโรเตชั่นนักเตะไปถึง 6 รายด้วยกัน

ก็ต้องรอดูกันว่า ‘เรือใบ’ จะยังคงรักษาความร้อนแรงเอาไว้ได้อย่างต่อเนื่องและทำสถิติชนะรวด 100% ต่อไปได้หรือไม่ หรือจะเป็น ‘เจ้าสัว’ ที่มาแหยมจ่าฝูงได้ถิ่น รอชมกันได้ 3 ทุ่มคืนนี้ครับ